สำหรับแฟชั่นในช่วงหลังๆ หลายคนก็เห็นแล้วว่าสีสันกำลังจะกลับมาอีกครั้ง สาวๆหลายๆคนก็สนุกไปกับการแต่งตัวตามสีสันต่างๆ แต่สำหรับสาวๆบางคนก็อาจจะไม่ถนัดการแต่งตัวตามสีเทรนด์แฟชั่นก็เป็นได้ สำหรับบทความนี้ มีเทคนิคเคล็ดลับการแต่งตัวสีสัน มาฝากกัน เป็นเทคนิคการแต่งตัวโทนสีตรงข้ามนั่นเอง หรือหมายถึงการนำสีสองสีที่อยู่ตรงข้ามกัน มาจับใส่ด้วยกันเพื่อเพิ่มความโดดเด่นมากขึ้น มาดูกันว่า คู่สีคู่ไหนที่กำลังมาแรง สาวๆสามารถนำไปแต่งตาม หรือมิกซ์แอนด์แมทช์กันได้เต็มที่
1.เทรนด์สีตรงข้าม : สีเหลืองและสีม่วง
สำหรับสองสีนี้ขอบอกเลยว่าเห็นมากในช่วงหลัง เป็นการจับคู่สีสุดเจ็บสุดจี๊ดที่ตัดกันได้อย่างโดดเด่นกันเลยทีเดียว สำหรับเสื้อผ้าที่สองสีนี้มักจะมาเจอกัน สาวไทยส่วนใหญ่มักจะเลือกเป็นผ้าแบบสบายๆ ตามสภาพอากาศของบ้านเรา เป็นอีกหนึ่งโทนสีที่หากคุณจับมาใส่ รับรองว่าไม่มีเอาท์อย่างแน่นอน จะดูชิค เป็นสาวแฟชั่นในทันที เพราะคู่สีนี้ปกติแล้วถ้าไม่ใช่สาวแฟชั่น จะไม่มีทางจับมาใส่คู่กันอย่างแน่นอน
2.เทรนด์สีตรงข้าม : สีแดงและสีเขียว
สำหรับสีนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และในช่วงท้ายปีของทุกปีก็จะมีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เพราะฉะนั้นจึงเป็นโทนสีที่ค่อนข้างเหมาะสำหรับสาวๆที่อาจจะยังไม่กล้าแต่งตัวสีตัดกันมาก เพราะสองสีนี้ถูกจับคู่กันจนชินตา ตัวอย่างในการแต่งตัวตามสีสองสีนี้ก็มีให้เห็นอยู่มากมายเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่ในช่วแบบนี้จะหยิบจับสองสีนี้เข้ามาใส่ด้วยกันเสียเลย
3.เทรนด์สีตรงข้าม : สีน้ำเงินและสีส้ม
สำหรับสีสองสีนี้ต้องขอออกตัวว่าค่อนข้างท้าทายทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าไม่เคยเห็นสีสองสีนี้อยู่ด้วยกัน ไม่เพียงแต่เฉพาะในวงการแฟชั่นเท่านั้น วงการอื่นๆก็ได้เริ่มมีการใช้สีสองสีนี้มาทำการตกแต่ง หรือทำเป็นสีผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ซึ่งก็ออกมาสวยงามดูดีใช้ได้ สำหรับคำแนะนำในการแต่งสองเฉดสีนี้เลยก็คือ ควรเลือกสีโทนที่มันมืดหน่อย หากคุณกลัวว่าแต่งออกมาแล้วจะโป๊ะ ถ้ายังไม่มั่นใจขอแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงสองสีนี้ในโทนที่สว่างๆ รับรองว่า แต่งตัวคู่สีตรงข้าม ของคุณจะออกมาไม่โป๊ะ สวยแบบปลอดภัยอย่างแน่นอน
#เทคนิคการแต่งตัว #แต่งตัวจับคู่โทนสีตรงข้าม #สตรีทแฟชั่น