วิธีเลือกลิปสติกให้เหมาะสำหรับคุณ

วิธีเลือกลิปสติกให้เหมาะสำหรับคุณ

สำหรับคุณผู้หญิงที่รักการแต่งตัวลิปสติกจัดเป็นเครื่องสำอางชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญไม่ใช้น้อย โดยทั่วไปมักมีติดกระเป๋าไม่ต่ำกว่าคนละ 1 แท่ง อย่างแน่นอน แต่ที่บ้านรับรองได้เลยว่าจะต้องมีการหลายแท่งหลายเฉดสีกันเลยทีเดียว เพราะในแต่ละวันสีสันของเสื้อผ้าเราจะเปลี่ยนไปตามความพอใจ แล้วสาวๆ ก็มักจะเปลี่ยนเฉดสีลิปสติกที่ทาให้เข้ากลับเสื้อผ้าที่สวมกันอีกด้วย แต่จริงๆ แล้วถ้าจะให้สวยเราควรเลือกลิปสติกที่มีคุณภาพดี โดยจะมีหลักเกณฑ์ในการเลือกดังนี้ค่ะ ภาพจาก pixabay.com 1. ต้องเป็นลิปสติกที่ผลิตได้มาตรฐานหรือเป็นยี่ห้อที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วไปว่ามีคุณภาพดี และที่สำคัญต้องมีเครื่องหมาย อย.รับประกันความปลอดภัย ที่สำคัญลิปสติกที่ได้มาตรฐานส่วนมากจะมีส่วนผสมของสารบำรุงเป็นส่วนผสม ช่วยให้ริมฝีปากเรานุ่มชุ่มชื่นและไม่แห้งกร้านหรือลอกเป็นขุ่ย ที่สำคัญยังติดทนนานและไม่หลุดลอกออกง่ายในระหว่างวันอีกด้วยค่ะ  2. ลิปสติกที่เลือกซื้อต้องเป็นของใหม่ไม่เก็บค้างมานานหลายปี โดยเฉพาะสาวๆ คนไหนที่ชอบเลือกซื้อเครื่องสำอางลดราคาไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังหรือไม่มีแบรนด์ คุณก็ต้องมั่นใจนะคะว่าของที่นำมาลดไม่เก่าเก็บหรือหมดอายุแล้ว โดยสามารถตรวจสอบดูได้ที่กล่องหรือตัวบรรจุภัณฑ์ ซึ่งถ้าเป็นยี่ห้อที่ได้มาตรฐานมี อย.รับประกัน จะต้องมีระบุวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุไว้อย่างครบถ้วน  ภาพจาก pixabay.com 3. ก่อนการเลือกซื้อทุกครั้งถ้าเป็นไปได้ควรทำการทดลองเสียก่อน หรือหลังจากซื้อมาแล้วก่อนทาก็ควรทดลองเช่นเดียวกัน สำหรับวิธีก็คือให้ทาลิปสติกที่บริเวณท้องแขนทิ้งไว้สักพัก หรือประมาณ 15-20 นาที ถ้าไม่เกิดอาการระคายเคืองคุณก็สามารถใช้ลิปสติกแท่งนั้นได้ แต่วิธีนี้กับบางคนก็อาจจะไม่ได้ผล เพราะเมื่อนำมาทาที่ริมฝีปากเวลาที่ทิ้งไว้จะนานกว่าก็มีโอกาสเกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน แต่เปอร์เซ็นต์จะน้อยกว่าที่เราไม่ได้ทำการทดลองเลย ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นคนแพ้ง่ายควรระมัดระวังในการใช้กันเป็นพิเศษด้วยนะคะ หากในระหว่างวันรู้สึกเหมือนคันยิบๆ ที่ริมฝีปาก ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเราอาจเกิดอาการแพ้ ให้รีบไปล้างออกเป็นอันดับแรก จากนั้นรอดูผลว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมีอาการมากขึ้นควรพบแพทย์เพื่อให้คุณหมอวินิจฉัยและทำการรักษาต่อไป   นอกจากนี้ถ้าซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้หรือนานแล้วลิปสติกยังไม่หมด สาวๆ ก็ไม่ควรเก็บไว้ใช้เกิน 2 ปีกันนะคะ […]